AEC ประชาคมอาเซียน : ประเทศลาว
AEC :ประเทศลาว
ประเทศลาว
เมืองหลวงของประเทศ : เวียงจันทน์ (ลาว: ວຽງຈັນ, ออกเสียง: [ʋíəŋ tɕàn]) เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศลาว อยู่ในลุ่มแม่น้ำโขง ในพิกัด 17°58' เหนือ, 102°36' ตะวันออก (17.9667, 102.6) ประชากรในตัวเมืองมีประมาณ 200,000 คน (ค.ศ. 2005) แต่ประชากรทั้งหมดที่อาศัยในนครหลวงเวียงจันทน์ เชื่อว่ามีอยู่ถึงกว่า 730,000 คน
พื้นที่ของประเทศ : 237,955 ตร.กม.
จำนวนประชากรของประเทศ : 6.758 ล้าน
ภาษาประจำชาติ : ภาษาลาว (ลาว: ພາສາລາວ พาสาลาว) เป็นภาษาราชการของประเทศลาว เป็นภาษาที่มีวรรณยุกต์ในภาษากลุ่มไท และสัมพันธ์ใกล้ชิดกับภาษาอีสาน
ของประเทศไทย ระบบการเขียนในภาษาลาวจะใช้อักษรลาว ซึ่งเป็นระบบอักษรสระประกอบ (ระบบการเขียนที่ประกอบด้วยสัญลักษณ์แทนพยัญชนะและตามด้วยสระที่จะอยู่ด้านหน้า หลัง บน ล่าง ของพยัญชนะ) และสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอักษรไทย
สกุลเงิน : กีบ (ลาว: ກີບ) เป็นหน่วยเงินของประเทศลาว (รหัสสากลตาม ISO 4217 อักษรย่อ LAK) หนึ่งกีบมี 100 อัด (ลาว: ອັດ) ในปี พ.ศ. 2522 เกิดการปฏิรูปค่าเงินขึ้น โดยเปลี่ยน 100 กีบแบบเก่าให้เท่ากับ 1 กีบในปัจจุบัน อัตราแลกเปลี่ยนเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2548 คือ 1 ยูโร เท่ากับ 13,636 กีบ และ 1 ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับ 10,500 กีบ ธนาคารแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นผู้รับผิดชอบพิมพ์เงินตราออกใช้
ดอกไม้ประจำชาติ : ดอกจำปาลาว (Dok Champa) คนไทยรู้จักกันดีในชื่อ ดอกลีลาวดี หรือ ดอกลั่นทม โดยดอกจำปาลาวมักมีสีสันหลากหลาย ไม่เฉพาะเจาะจงว่าต้องเป็นเพียงสีขาวเท่านั้น เช่น สีชมพู สีเหลือง สีแดง หรือสีโทนอ่อนต่าง ๆ โดยดอกจำปาลาวนั้นเป็นตัวแทนของความสุขและความจริงใจ จึงนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายเพื่อประดับประดาในงาน
สัตว์ประจำชาติ : “ช้าง” เป็นสัตว์ประจำชาติประเทศลาว ช้างถือเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองที่มีความผูกพันกับชาวลาวเป็นอย่างยิ่ง ในอดีตลาวได้รับการเรียกขานว่าเป็นเมืองล้านช้าง แต่ปัจจุบันประชากรช้างในลาวอยู่ในภาวะวิกฤต รัฐบาลลาวจึงได้ฟื้นฟูและอนุรักษ์ช้างลาวไว้ โดยการจัดงานบุญช้างขึ้นเป็นประจำทุกปี
อาหารขึ้นชื่อ :
ซุปไก่ (Chicken Soup) เป็นอาหารยอดนิยมของลาว มีส่วนผสมสำคัญ ได้แก่ ตะไคร้ ใบสะระแหน่ กระเทียม หอมแดง รวมถึงรสชาติเปรี้ยว ๆ เผ็ด ๆ จากมะนาวและพริก รับประทานร้อน ๆ กับข้าวเหนียว
สลัดหลวงพระบาง หน้าตาดูจะคล้ายกับสลัดผักน้ำ มีเพียงผักบางรายการที่เพิ่มเข้ามา และถั่วลิสงคั่วโรยตอนสุดท้าย ลักษณะของผักน้ำ ลำต้นขนาดเล็กยาว แต่อวบเพราะเลี้ยงอยู่ในแม่น้ำ เวลาเคี้ยวจะรู้สึกถึงความกรอบของผัก พบเห็นได้ตามตลาดเช้า
สถานที่สำคัญในประเทศ :
เมืองหลวงพระบางอยู่ทางตอนเหนือของประเทศลาว และถูกขนาบไปด้วยแม่น้ำคานและแม่น้ำโขง เมืองนี้จัดว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์น่าหลงใหล เพราะเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยวัดวาอารามเก่าแก่ มีบ้านเรือนที่มีสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียน บรรยากาศในเมืองเต็มไปด้วยเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม จึงไม่น่าแปลกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรกดโลก ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติให้เดินทางมาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก โดยสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ เช่น วัดใหม่สุวันนะพูมาราม พระธาตุจอมพูสี น้ำตกตาดกวางสี และวัดวิชุน ฯลฯ
แม่น้ำโขงเป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีความยาวถึง 4,350 กิโลเมตร ประเทศลาวเองก็มีพรมแดนติดแม่น้ำโขงด้วยเช่นกัน และใช้แม่น้ำโขงสำหรับสัญจรไปมาอีกด้วย ทัศนียภาพตลอดแนวริมฝั่งนั้นสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตของคนลาว และความงดงามทางธรรมชาติ อากาศที่บริสุทธิ์ ทำให้ทริปล่องแม่น้ำโขงนั้นเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยจุดเริ่มต้นเส้นทางเริ่มที่เมืองห้วยทรายและสิ้นสุดที่เมืองหลวงพระบาง หรือจะออกเดินทางจากหลวงพระบาง-ห้วยทรายก็ได้
สี่พันดอน แปลว่าสี่พันเกาะนั่นเอง เป็นหมู่เกาะที่อยู่บริเวณแม่น้ำโขงทางตอนใต้ของประเทศลาว ก่อนที่จะไหลเข้าเขตประเทศกัมพูชา ชาวบ้านแถบนี้ประกอบอาชีพประมงเป็นส่วนใหญ่ และยังคงดำรงชีวิตแบบชาวชนบท มีความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย เป็นเขตที่ค่อนข้างสงบทีเดียว
จุดท่องเที่ยวหลัก ๆ มีอยู่ 3 แห่ง คือ ดอนคง ดอนคอน และดอนเด็ด สำหรับดอนคงเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีบรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนแบบชิล ๆ สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ ชมความงามของธรรมชาติ สำหรับดอนคอนและดอนเด็ดเป็นเกาะที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาค่อนข้างมาก จึงมีที่พักเปิดให้บริการกับผู้คนที่แวะเวียนมาเยี่ยมชมธรรมชาติที่นี่ ที่สำคัญราคาที่พักไม่แพงเลย
จุดท่องเที่ยวหลัก ๆ มีอยู่ 3 แห่ง คือ ดอนคง ดอนคอน และดอนเด็ด สำหรับดอนคงเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีบรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนแบบชิล ๆ สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ ชมความงามของธรรมชาติ สำหรับดอนคอนและดอนเด็ดเป็นเกาะที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาค่อนข้างมาก จึงมีที่พักเปิดให้บริการกับผู้คนที่แวะเวียนมาเยี่ยมชมธรรมชาติที่นี่ ที่สำคัญราคาที่พักไม่แพงเลย
ทุ่งไหหินเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ในเมืองเชียงขวาง (Xieng Khouang) เป็นที่ราบกว้างเต็มไปด้วยหินรูปทรงคล้ายไหหรือโอ่ง มีความสูงตั้งแต่ 1-3 เมตร นักโบราณคดีสันนิษฐานว่า ไหพวกนี้ปรากฏขึ้นตั้งแต่ยุคหิน และน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับพิธีกรรมฝังศพ เพราะมีการค้นพบซากโครงกระดูกมนุษย์และสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับการฝั่งศพบริเวณรอบ ๆ
นอกจากนี้บริเวณรอบ ๆ ไหหินยังมีร่องรอยของหลุมระเบิดที่ทิ้งลงมาโดยสหรัฐอเมริกาอีก อย่างไรก็ตามยังไม่มีการยืนยันแน่ชัดจากนักโบราณคดีว่าที่มาของไหหินนี้เป็นมาอย่างไรกันแน่ แต่ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติไปเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้บริเวณรอบ ๆ ไหหินยังมีร่องรอยของหลุมระเบิดที่ทิ้งลงมาโดยสหรัฐอเมริกาอีก อย่างไรก็ตามยังไม่มีการยืนยันแน่ชัดจากนักโบราณคดีว่าที่มาของไหหินนี้เป็นมาอย่างไรกันแน่ แต่ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติไปเรียบร้อยแล้ว
พระธาตุหลวงเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางศาสนาพุทธตั้งอยู่ที่เมืองเวียงจันทน์ ถูกสร้างขึ้นโดยบุรีจันอ้วยล้วย หรือพระเจ้าจันทบุรีศักดิ์ เจ้าผู้ครองนครเวียงจันทน์พระองค์แรก ตามตำนานเล่าว่า มีพระภิกษุลาวจำนวน 5 รูป เดินทางไปศึกษาพระพุทธศาสนาที่ประเทศอินเดีย แล้วนำพระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนที่เป็นหน้าอก) มาไว้ที่เวียนจันทน์ เจ้านครในสมัยนั้นจึงสั่งให้มีการสร้างพระธาตุขึ้นมาเพื่อบรรจุพระอุรังคธาตุไว้สำหรับกราบไหว้บูชา
เริ่มแรกนั้นพระธาตุถูกสร้างด้วยหิน แต่ต่อมามีการสร้างเจดีย์ครอบองค์พระธาตุ และบริเวณรอบ ๆ องค์พระธาตุมีเจดีย์รายล้อมหลายองค์ ที่เจดีย์ถูกแกะสลักเป็นลวดลายพญานาค พระพุทธรูปปิดทองลายกลีบบัวประดับอยู่บนฐานปักษ์ ปัจจุบันรูปทรงของพระธาตุมีลักษณะคล้ายกับป้อมปราการ เพราะมีระเบียงล้อมรอบสูง สถานที่แห่งนี้ถือว่าเป็นปูชนียสถานที่มีคุณค่าทางจิตใจต่อคนลาวมากที่สุดก็ว่าได้ เสมือนเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนทั้งประเทศ
เริ่มแรกนั้นพระธาตุถูกสร้างด้วยหิน แต่ต่อมามีการสร้างเจดีย์ครอบองค์พระธาตุ และบริเวณรอบ ๆ องค์พระธาตุมีเจดีย์รายล้อมหลายองค์ ที่เจดีย์ถูกแกะสลักเป็นลวดลายพญานาค พระพุทธรูปปิดทองลายกลีบบัวประดับอยู่บนฐานปักษ์ ปัจจุบันรูปทรงของพระธาตุมีลักษณะคล้ายกับป้อมปราการ เพราะมีระเบียงล้อมรอบสูง สถานที่แห่งนี้ถือว่าเป็นปูชนียสถานที่มีคุณค่าทางจิตใจต่อคนลาวมากที่สุดก็ว่าได้ เสมือนเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนทั้งประเทศ
ปราสาทหินวัดพูตั้งอยู่บนเนินเขาพู ในแขวงจำปาสัก (Champasak) เป็นซากปรักหักพังของวัดฮินดูโบราณ ที่สร้างขึ้นช่วงศตวรรษที่ 11 ถึง 13 นอกจากนี้ วัดพูยังได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกเพราะเคยเป็นแหล่งอารยธรรมโบราณถึง 3 สมัยด้วยกัน ตรงทางเข้าวัดพูนั้นมีหินปูเรียงรายสำหรับเดินเข้าวัด มีเสาเรียงตั้งเรียงอยู่หลายต้นขนาบข้างทางเดิน มีเรือนใหญ่ 2 หลัง ซุ้มประตูที่พลังทลาย หินสลักเป็นรูปเศียรช้าง และรูปปั้นหินรูปต่าง ๆ เช่น โยคี จระเข้ และมีพระพุทธรูปตั้งวางสำหรับกราบไหว้บูชา บรรยากาศที่ปราสาทแห่งนี้ให้ความรู้สึกถึงความอลังการ ความขลัง ผสมผสานกับความลี้ลับ น่าพิศวง อาจด้วยความเก่าแก่ตามกาลเวลา อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันถูกใช้เป็นสถานที่ทางพุทธศาสนานิกายเถรวาท
ถ้ำปากอู หรือถ้ำติ่ง อยู่ในแขวงหลวงพระบาง (Laung Prabang) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง นักท่องเที่ยวต้องนั่งเรือจากตัวเมืองในหลวงพระบางประมาณ 25 นาที เมื่อมาถึงบ้านปากอู ต้องนั่งเรือข้ามฝากมาฝั่งตรงข้ามจะพบถ้ำติ่ง ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ถ้ำ คือ ถ้ำติ่งลุ่ม และถ้ำติ่งเทิ่ง เมื่อลงมาจากเรือจะพบทางเข้าถ้ำติ่งลุ่ม เป็นถ้ำที่มีโพรงไม่ลึก ภายในมีหินงอกหินย้อย และมีรูปปั้นพระพุทธรูปที่ทำจากไม้เต็มไปหมด เชื่อกันว่าในสมัยก่อนเคยถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับสักการบูชาดวงวิญญาณ ภูตผี แต่เมื่อศาสนาพุทธเข้ามาในลาวจึงกลายเป็นศาสนสถานทางพุทธไป และเมื่อเดินไปอีกทางหนึ่งจะพบถ้ำเทิ่ง เป็นถ้ำที่ลึกมาก ภายในมีพระพุทธรูปเช่นกัน แต่มีจำนวนไม่มากเท่ากับถ้ำติ่งลุ่ม
เวียงไซเป็นเมืองหนึ่งในแขวงหัวพัน (Hua Phan) แหล่งท่องเที่ยวที่เปรียบเสมือนแม่เหล็กของเมืองเวียงไซ คือ "ถ้ำผู้นำ" เป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ปกคลุมตัวต้นไม้เขียวขจี ดูแล้วก็เหมือนถ้ำทั่ว ๆ ไป แต่สิ่งที่ต้องทำให้ผู้คนตะลึง คือ ภายในถ้ำถูกขุดเจาะและสร้างเป็นที่อยู่อาศัย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น ห้องพัก ห้องรับแขก ห้องประชุม โรงเรียน โรงพยาบาล ห้องหลบภัย โรงภาพยนตร์ ห้องสำหรับเล่นกีฬา ฯลฯ ซึ่งสามารถรองรับผู้อาศัยได้ประมาณ 20,000 คน
โดยถ้ำผู้นำสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสถานที่หลบภัยของแกนนำทหารคอมมิวนิสต์ในช่วงสงครามอินโดจีน เมื่อย้อนกลับไปสมัยนั้น สหรัฐอเมริกาทิ้งระเบิดลงมาในลาวหลายลูกติดต่อกันเป็นเวลาถึง 9 ปี เพื่อขจัดพวกคอมมิวนิสต์ไปหมดสิ้นไป เหล่าแกนนำคอมมิวนิสต์จึงหาที่หลบภัย โดยการเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในถ้ำ ทำให้มี "ถ้ำผู้นำ" ลักษณะนี้อยู่ถึง 12 แห่ง ตั้งอยู่ใกล้เคียงกันในเมืองเวียงไซ แต่เปิดให้นักท่องเที่ยวชมเพียง 6 ถ้ำเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีการแสดงนิทรรศการเล่าเรื่องราวความเป็นมาของเหตุการณ์ในครั้งนั้นในแง่มุมของความรักชาติ การเสียสละเพื่อชาติอีกด้วย
โดยถ้ำผู้นำสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสถานที่หลบภัยของแกนนำทหารคอมมิวนิสต์ในช่วงสงครามอินโดจีน เมื่อย้อนกลับไปสมัยนั้น สหรัฐอเมริกาทิ้งระเบิดลงมาในลาวหลายลูกติดต่อกันเป็นเวลาถึง 9 ปี เพื่อขจัดพวกคอมมิวนิสต์ไปหมดสิ้นไป เหล่าแกนนำคอมมิวนิสต์จึงหาที่หลบภัย โดยการเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในถ้ำ ทำให้มี "ถ้ำผู้นำ" ลักษณะนี้อยู่ถึง 12 แห่ง ตั้งอยู่ใกล้เคียงกันในเมืองเวียงไซ แต่เปิดให้นักท่องเที่ยวชมเพียง 6 ถ้ำเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีการแสดงนิทรรศการเล่าเรื่องราวความเป็นมาของเหตุการณ์ในครั้งนั้นในแง่มุมของความรักชาติ การเสียสละเพื่อชาติอีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น